
เดวิด มอยส์ กุนซือ เวสต์หมูแฮม ยูไนเต็ด รับตื่นเต้นซึ่งสามารถพา “ขุนค้อน” เข้าชิงแชมป์บอล ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ได้เป็นครั้งแรก พร้อมวิภาควิจารณ์เหตุแฟนบอลต่อสู้กันข้างหลังเกมว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น

ข่าว จากผลที่ได้ขึ้นทำให้ “ขุนค้อน” ผ่านไปสู่รอบชิงแชมป์ของรายการนี้เป็นครั้งแรกด้วยสกอร์รวมสองนัดหมาย 3-1 ไปดวลกับ ฟิออเรนติเตียนท้องนา จากอิตาลีวันที่ 7 ไม่.ย. พร้อมเป็นการได้ลุ้นแชมป์รายการเมเจอร์ของยุโรปเป็นครั้งที่ 2 โดยทีเดียวที่กลุ่มเคยได้แชมป์ถ้วยยุโรปได้จำต้องย้อนไปเมื่อศึกยูโรเปียนส์ คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อฤดู 1964-65 หรือเมื่อ 58 ปีที่ผ่านมา ข้างหลังเกม มอยส์ ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกว่า “พวกเราทุกคนได้แต่ว่ายืนหยัด รวมทั้งพวกเรายังอยู่ในนัดหมายชิงที่ได้โอกาสคว้าถ้วยรางวัล โดยเหตุนี้มีจุดเด่นมากที่มาจากมัน ผมอยู่ในแวดวงบอลและก็เป็นกุนซือมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และก็คุณมิได้รับช่องทางที่ยิ่งใหญ่มาก” “การเข้าชิงแชมป์เป็นสิ่งที่มิได้เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของผู้จัดการทีมฟุตบอลหลายๆคน ผมตื่นเต้นที่ได้ช่องหนึ่งหรือสองคราวนั้น นี่เป็นรายการยุโรปหนแรกของผม แล้วก็เป็นสิ่งที่ผมพึงพอใจมากมาย” ข่าวกีฬา นอกเหนือจากนั้นผู้ฝึกสอนวัย 60 ปียังเอ่ยถึงเหตุวุ่นวายที่แฟนบอลของ อัล์กมาร์ มีการรบกับแฟนบอล เวสต์หมูแฮม บนอรรธจันทร์ข้างหลังจบเกมซึ่งในโซนนั้นมีครอบนะครับของผู้เล่น “ขุนค้อน” นั่งอยู่ด้วยทำให้มีนักเตะของ เวสต์หมูแฮม พากเพียรบุกขึ้นไปช่วยครอบครัว ก่อนท้ายที่สุดข้าราชการจะเข้าควบคุมเหตุไว้ได้ว่า “พวกเราจะต้องรอคอยให้ฝุ่นละอองสงบลงเพื่อมองว่ามันเป็นอย่างไร แต่ว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดเป็นพื้นที่ซึ่งครอบครัวของผู้เล่นอยู่ โน่นเป็นต้นเหตุของปัญหา และก็ผู้เล่นคนจำนวนไม่น้อยก็โกรธ เพราะว่าไม่สามารถที่จะมองว่า ครอบครัวพวกเขาโอเคไหม พวกเราจะต้องรอคอยถามข้าราชการว่ากำเนิดอะไรขึ้นจริงๆผมบอกได้เพียงแค่ว่า นักฟุตบอลมีส่วนรู้เหตุการณ์เนื่องจากว่าโน่นเป็นพื้นที่ครอบครัว”
แนะนำข่าวกีฬา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : รู้จักสาวขาลุย “เซเลสต์” นักมวยหญิงต่างชาติคนแรกที่ได้ขึ้นชกบนเวทีลุมพินี